มาถึงช่วงที่สองกันนะครับ หลังจากที่เราได้ลงทะเบียนและเยี่ยมงานบูธต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว มาถึงช่วงประชุมสัมมนาช่วงแรกกันนะครับ ขณะที่เราได้เข้าไปที่ห้อง Ballroom ที่ชั้น 7 กันแล้ว ก็มีการเปิดวีดีโออย่างหนึ่ง ซึ่งมีการ Integrate การทำงานอย่างหนึ่งครับ มีการใช้ Skype ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน คิดว่าคงเป็นความร่วมมือกันของ Skype ในเรื่องของ Cloud Service ในวีดีโอนั้น ได้แสดงภาพของบุคคลหนึ่งกำลังติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่ง ซึ่งภายในวีดีโอกำลังสนทนาผ่าน Skype กัน ระบบปฏิบัติการที่ใช้คือ Linux เวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งพวกเขาทั้งสองคนกำลังทำงานร่วมกันได้แบบทันที หมายถึงอะไรครับ ก็คือพวกเขาทั้งคู่กำลังสนทนาไปร่วมกันและแก้ไข Code ต่าง ๆ บน Linux ไปด้วยกันได้ในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่า เหมือนคนสองคนใช้คอมเครื่องเดียวกันอยู่ นี่แหล่ะครับ การทำงานของเทคโนโลยียุคใหม่ที่เราเรียกว่า Agile กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วครับ
[b]ต่อไปจะเป็นช่วงเปิดงานครับ Mr. Chalermpol Tuchinda - Deputy Director จาก Software Park Thailand[/b]
ท่านก็ได้เปิดงานอย่างดีมากเลยครับ กรขอสรุปนะครับ ในปัจจุบันนี้ Agile กำลังเข้ามามีบทบาทมากในธุรกิจสมัยใหม่ของเรา เรียกได้ว่ามาหยุดลมหายใจเราทันที เพราะว่า ROS หรือเราเรียกว่า Red Ocean Strategy กำลังแข่งขันและเกิดการแย่งชิงกันสูงมากในปัจจุบันนี้นะครับ จึงต้องมีกลยุทธ์ BOS หรือ Blue Ocean Strategy ออกมาปราบด้วยการหาช่องทางใหม่ ๆ ต่อไปครับ Agile จึงได้ช่วยเหลือองค์กรได้ในสองกรณีก็คือ New release และ Changing requirements ขึ้นมา หมายความว่า Agile จะช่วยผลักดันให้คุณพัฒนาสินค้าหรือซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพออกมาสู่การตลาด ซึ่งในเรื่องของ Training ก็จะช่วยผลักดันเรื่องของ Agile ให้มีคุณภาพมากขึ้นได้ด้วย Software Park จึงได้เข้าใจในเรื่องของวิธีการและขั้นตอนต่าง ๆ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ปัจจุบันเป็นอย่างดี จึงได้ผลักดันไปที่กลุ่มผู้คนและองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งโฟกัสไปที่ Discipline หรือเราเรียกว่า ความมีวินัย ให้กับองค์กรมากขึ้นด้วยครับ
[b]คียเวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสัมมนานี้[/b]
PSP – Personal Software Process ในอนาคตจะมีการเวิร์คช็อป, การให้ความสนับสนุนด้านต่าง ๆ และความเพลิดเพลินกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
TSP – Team Software Process ในอนาคตจะเน้นไปที่การร่วมมือกันทำงานกับองค์กรระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งในเรื่องของ Architecture นั้นมีบทบาทสำคัญในเรื่องของการมองดูภาพรวมทั้งหมด
Training – มีความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพให้กับบุคลากรมากขึ้น
Community – ช่วยให้เกิดสังคมแห่งการศึกษาขึ้น โดยการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
IASO - International Association of Software Architects อย่างในเรื่องของ Cloud Computing, Business Intelligence เป็นต้น
ซึ่งในเดือน October วันที่ 8 - 10 ที่ภูเก็ต จะมีเหล่า Speakers จากต่างประเทศมากมายมาร่วมเสวนาในงานสัมมนาของ Software Park Phuket Development
[b]ช่วงต่อไปก็จะเป็นการอภิปรายในเรื่องของ Agile Software Development and Web 2.0 with Mashup โดย Pairoj Ruamviboonsuk – Consulting Software IT Specialist, Software Group, IBM Thailand Co., Ltd.[/b]
กรขออนุญาตสรุปแล้วกันนะครับ เพราะถ้าอธิบายตาม Slide เดี๋ยวกรจะไปเขียนนิยายแล้วกัน : )
Agile เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์อย่างหนึ่ง ที่จะช่วยผลักดัน New Innovation ขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งในปัจจุบัน มีองค์กรที่พัฒนาขึ้นมามากมาย ดังนั้น บริษัทจึงจำเป็นต้องกำหนดกลยุทธ์ขึ้นมาในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่ง Agile เน้นอยู่สองอย่างคือ Process และ Quality ที่จะช่วยในการสร้างสรรค์และเกิดแรงในการพัฒนาออกมา Agile จะช่วยจัดการความต้องการอย่างถูกต้อง โดยใช้เวลาสั้น ๆ เปรียบเสมือนวงจรของกระบวนการทำงาน เพื่อที่จะเพิ่มอัตราการผลิตได้อย่างรวดเร็ว ในการพัฒนา Agile ขึ้นมาให้กับองค์กร ในขณะเดียวกันยังตอบแทนด้าน Value กับกลุ่มลูกค้าด้วย Agile จึงมุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกันอย่างเป็น Collaboration เนื่องจากกระบวนการทำงานของ Agile ต้องการที่จะ Output, การตอบสนอง Response, การเปลี่ยนแปลง Change ในเรื่องของความต้องการ เพราะว่าไม่มีลูกค้าคนไหนที่พอใจในสิ่งที่ตนเองต้องการอยู่แล้วเพียงอย่างเดียว
Agile แตกต่างอย่างไร? Agile เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยเหลือโดยมุ่งเน้นในเรื่องของการสนทนา, การแชท และโทรศัพท์ เพื่อที่จะให้เกิดงานที่เป็นนามธรรมมากยิ่งขึ้น โดยการมองภาพรวมของ Architecture มองให้เห็นเป็นในเรื่องของโครงสร้างมากยิ่งขึ้น เพื่อที่เราจะได้แยกหน้าที่ของงานในการจัดแจงให้กับทุกคนในทีมได้ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น การช่วยเหลือในการบันทึกงานด้วยกัน และการแก้ไข Coding ซึ่งกันและกันในเวลาเดียวกัน เป็นต้น สิ่งที่คุณจะต้องการก็คือ การได้รับ Feedback กลับมานั่นเอง แต่ทว่า Agile จะเกิดได้ถ้าหากคุณลงมือทำ Practice Practice Practice! ไม่ใช้ Query อย่างเดียว
แนวความคิดของ Agile นั้นเริ่มมาจากการทดสอบก่อนเป็นอันดับแรก การทดสอบก่อนการแก้ไขครับ ทำไมเราถึงต้องทดสอบก่อนนั้น ก็เพราะว่าเพื่อที่หาข้อบกพร่องก่อนการแก้ไขครับ Agile จะช่วยให้คุณมีภูมิคุ้มกันในเรื่องของป้องกันกับอุปสรรคต่าง ๆ ได้ เพื่อที่จะได้หาหนทางที่ถูกต้องในการนำมาปรับใช้ในวงจรกระบวนการผลิตของเราเองได้ครับ การฝึกฝน Agile ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว ที่จะช่วยในการผสมผสานเครื่องมือต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และการจัดการพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาได้ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องคิดอยู่เสมอคือ การ Deploy อยู่เสมอ, การพัฒนาตลอดเวลา, การผสมผสานอย่างต่อเนื่อง, การปรับแต่ง, การพัฒนาแรงผลักดันการทดสอบ, การทดสอบอย่างคล่องแคล่ว และการเตรียมเอกสารอย่างรวดเร็ว สุดท้าย งานทุกงานที่คุณต้องเผชิญหน้าจะสำเร็จลงได้ ถ้าหากคุณจัดสรรความสำคัญของมันก่อนนะครับ
ต่อไปมาดูแนวความคิดของ ASM – Agile Scaling Model
1. Core Agile Development – ขึ้นตอนนี้จะเน้นที่การพัฒนาอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อที่จะให้งานการผลิตและการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์บรรลุผลสำเร็จมากที่สุด
2. Disciplined Agile Delivery – สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญอันดับต่อมา ไม่ใช่มองแค่เฉพาะ Value แต่เพียงอย่างเดียว เราจะต้องบริหารจัดการกับความเสี่ยงที่คุณต้องเผชิญอยู่ด้วย
3. Agility@ Scale – จุดนี้คือปัจจัยที่คุณจะสำเร็จได้ ถ้าคุณถือมันไวอยู่ตลอด เพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่คงไม่อยู่นิ่งแต่ที่เดิมอยู่ตลอด ก็คงมีเปลี่ยนที่ตั้งไปนู้นไปนี่อยู่เสมอ
ประเภทของการก่อสร้างของ Agile จะทำให้งานออกมาเป็น Output มากขึ้น Output จะช่วยให้เกิดการทำงานกับระบบมากขึ้น และ Feedback ที่ได้รับก็จะมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน Agile จึงได้วัฒนาการขึ้นมาในยุคนี้ สามารถช่วยเพิ่ม Scale ต่าง ๆ ในการทดสอบระบบตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น จึงได้เกิดเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Jazz เกิดขึ้น Jazz นั้นคืออะไรกัน Jazz คือเทคโนโลยีที่นำเอา Innovation, Rational Products, Community และ Vision มารวมกันเป็น Jazz ขึ้นมาก เปรียบเสมือนเป็น Knowledge Management อย่างหนึ่ง ที่นำเอาประสบการณ์ต่าง ๆ มาสร้างเป็นความรู้และเป็น Community ในการแบ่งปันความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
เพราะว่า Jazz ต้องการให้กลุ่มลูกค้าเกิดความ Trust โดยพยายามที่คิดหากคุณค่ามาเติมเต็มให้กับ End User ได้ใช้กัน Jazz จึงนำเอาเทคโนโลยีมากมายมาพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ขึ้นมา โดยใช้ Internet เป็นแก่นกลางในการติดต่อสื่อสารกับชีวิตเราทุกคน เพื่อที่จะส่งซอฟต์แวร์สู่มือของพวกเขา ดังนั้น เราอาจจะได้ยินที่เขาเรียกกันว่า Cloud Service หรือ Cloud Computing โดย Jazz จะเป็นแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่ส่งซอฟต์แวร์ให้กับผู้คนในรูปแบบนามธรรมและรูปธรรมอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกว่ามีคุณค่าและมีคุณภาพในขณะเดียวกัน IBM Rational จึงได้ใช้เทคโนโลยี Jazz มุ่งสู่การเป็น Cloud และเป็นคลื่นลูกใหม่ที่จะผลักดันผู้ใช้ทุกคนทำงานร่วมกันกับสภาพแวดล้อมด้วย Agile กันมากขึ้นครับ
[b]มุมนอกขอบโต๊ะ[/b]
เทคโนโลยีของ IBM Rational ได้ใช้ Web 2.0 มาช่วยในการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมา เพื่อให้ได้รับคุณภาพและคุณค่าแก่ผู้ใช้มากขึ้น โดยซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นมา จะสามารถซิงค์เชื่อมกันได้ ก็คือไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหน คุณก็ทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานของคุณได้เสมอ
นอกจากนี้ Rational สามารถทำให้คุณ Insight ได้มากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่สรุปผลลัพธ์มาในรูปแบบของ Dashboard โดยใช้ Business Intelligence เป็นตัวช่วยในการแสดงประสิทธิภาพการทำงานขึ้นมาด้วย
แน่นอนว่าในอนาคต เราจะได้เห็นเทคโนโลยี Launch ออกมาในหลายรูปแบบมากขึ้นครับ ติดตามกันต่อไปนะครับ
แล้วช่วงก่อนหลัง Coffee Break ก็จะเป็นช่วงของ Workshop ครับ ก็จะเป็นลักษณะการทำงานของซอฟต์แวร์ว่า Agile ได้อย่างไร ใครคนไหนได้ไป ก็คงได้เห็นกันแล้วนะครับ ว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานอย่างเป็น Workflow ได้ดีเลยทีเดียวครับ
วันนี้กรขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวไปพบกันช่วงสุดท้ายกันครับ
[b]Thank you for IBM’s Information[/b]
Sources by IBM Lotus Software – www.lotus.com , www.ibm.com
Thank you for sharing information spaces - www.lotusnotesthai.com , www.9notes.net
เพื่อน ๆ คนไหนที่ไปงานสัมมนา มาเล่าสู่กันฟังกันหน่อยนะครับ ว่ารู้สึกยังไงกับงานนี้กันบ้างครับ |